March 28, 2009

เหตุผลที่นายจ้างปฏิเสธรับผู้สมัครเข้าทำงาน

ผมเคยตกงานมาเป็นปี, เข้ารับการสัมภาษณ์จากนายจ้าง และเป็นผู้สัมภาษณ์งานเอง ก็หลายครั้ง...ดังนั้นผมว่าเหตุผลที่ที่เราไม่ได้รับการเลือกเข้าทำงานนั้นมีอยู่หลายข้อ ลองอ่านดูครับแล้ว กลับมาดูตัวเราว่าเราเป็นแบบนั้นจริงไหม....แบบไม่เข้าข้างตัวเองนะครับ...แต่ถ้าจะให้ดีแนะนำว่าให้ปรึกษากับบุคคลที่เราสามารถพูดได้ทุกเรื่องและไว้ใจได้ ลองถามเค้าดูว่าเรามีข้อดี และข้อเสียอะไรบ้าง เวลาเราได้รับการสัมภาษณ์เราจะได้ปรับตัวถูกต้องครับ..

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เหตุผลที่นายจ้างปฏิเสธรับผู้สมัครเข้าทำงาน

* ขาดความเสมอต้นเสมอปลายในการทำงาน ประวัติการทำงานไม่ดี เปลี่ยนที่ทำงานบ่อย
* ชอบทำงานคนเดียว ทำงานร่วมกับผู้อื่นเป็นทีมไม่ได้
* มีโรคประจำตัวที่เป็นอุปสรรคในการทำงาน
* ไม่มีเป้าหมายในการทำงาน ต้องการเพียงหาประสบการณ์จากการทำงานในระยะเวลาสั้น ๆ
* ไม่สนใจและทุ่มเทให้กับงาน และมักมีข้อแม้ไม่สามารถเดินทางไปต่างจังหวัดได้
* มีญาติพี่น้องทำงานกับบริษัทคู่แข่ง เสี่ยงต่อการเก็บความลับบริษัท ข้อมูลอาจรั่วไหลได้
* ไม่มีความเชื่อมั่นในตนเอง ขาดความกระตือรือร้น ผลการปฏิบัติงานล้มเหลวมาในอดีต
* ชอบเกี่ยงงาน ถนัดแต่งานสบาย หนักไม่เอา เบาไม่สู้
* กำลังศึกษาต่อและมีแนวโน้มว่าเมื่อสำเร็จการศึกษาจะลาออก
* เป็นบุคคลที่เคยมีประวัติต้องโทษคดีอาญา อาจส่งผลให้เสียภาพลักษณ์บริษัท
* ไม่มีความรู้เพียงพอหรือเหมาะสมกับตำแหน่งงานที่สมัคร
* และอื่นๆ ตามที่บริษัทเห็นสมควรในการรับคนเข้าทำงาน ในตำแหน่งนั้นๆ อันนี้แล้วแต่คนที่สัมภาษณ์นะครับ...

การเตรียมตัวก่อนเข้าสอบสัมภาษณ์

การเตรียมตัวก่อนเข้าสอบสัมภาษณ์
1. การเตรียมตัวด้านสุขภาพและการแต่งตัว
- ควรพักผ่อนให้เพียงพอ รักษาสุขภาพจิตใจ อย่านอนดึก
- ถ้ามีปัญหากลิ่นตัว กลิ่นปาก พยายามขจัดให้ลดลง
- รักษาร่างกายให้สะอาด ผู้ชายควรตัดผม โกนหนวดเคราให้เรียบร้อย
- เครื่องแต่งตัวที่สุภาพเรียบร้อย 1 ชุด (ผู้ชายควรผูกไทด์ ผู้หญิงควรแต่งตัวให้ดูเรียบร้อย ไม่ควรนุ่งกางเกงไปสัมภาษณ์)
2. การเตรียมตัวด้านความรู้
- ความรู้เกี่ยวกับสาขาวิชาที่เรียนมา
- หาข้อมูลของบริษัทที่จะไปสมัครเท่าที่จะหาได้
- ควรรู้เรื่องราวทั่วๆไปไว้บ้างนะครับ
- ควรจดจำประวัติการศึกษาของตัวเองไว้บ้าง ความสามารถพิเศษ และประสบการณ์ที่ผ่านมา

ข้อควรปฎิบัติในวันสอบสัมภาษณ์
- ตื่นแต่เช้าทำจิตใจให้เบิกบาน ทำธุระส่วนตัวให้เรียบร้อย
- แต่งตัวให้ดูดี เรียบร้อย
- อ่านหนังสือพิมพ์รอบเช้าไว้บ้างก็ดีครับ เผื่อกรรมการจะถามเกี่ยวกับข่าวสารใหม่ๆ
- ควรไปถึงที่สอบสัมภาษณ์ก่อนเวลาประมาณ 10-20 นาที
- ไปสอบสัมภาษณ์คนเดียว (เพื่อแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจของคุณ)

เรื่องที่จะสัมภาษณ์
- ภูมิหลังและชีวิตครอบครัว (สำหรับคนที่มีครอบครัวแล้วนะครับ ยังไม่มีก็บอกว่ายังโสดนะครับ)
- ประวัติในวัยเรียนชั้นต่างๆของคุณอาจถูกยิบยกมาถามได้
- เรื่องราวของสุขภาพ ประสบการณ์ และความสามารถพิเศษ (ส่วนมากจะถามครับ)
- ความมั่นใจในตัวเอง อันนี้กรรมการจะสังเกตจากการตอบคำถามและการวางตัวของคุณครับ
- การควบคุมอารมณ์ของคุณว่าสามารถควบคุมอารมณ์ได้หรือเปล่า
- เป้าหมายในชีวิต
- ปัญหาและวิธีการแก้ปัญหาที่คุณคิดว่าดีที่สุด
- เหตุผลที่คุณไปสมัครกับทางบริษัทของเขา คุณมีความจริงใจและสนใจมากน้อยเพียงใด

ข้อควรปฎิบัติในระหว่างการสอบสัมภาษณ์
- อย่าเข้าไปในห้องสัมภาษณ์ ถ้ายังไม่ถูกเรียกตัวให้ผู้สัมภาษณ์เชิญเสียก่อน และควรแสดงความเคารพด้วยการไหว้
- ถ้ากรรมการสอยสัมภาษณ์ยังไม่บอกให้นั่งก็อย่าพึ่งนั่ง รอให้กรรมการเชิญให้นั่งเสียก่อนแล้วอย่าลืมกล่าวคำว่า 'ขอบคุณ' ด้วยนะครับ
- ไม่ควรสูบบุหรี่หรือทานอาหารรสจัดก่อนเข้าสอบสัมภาษณ์
- อย่าตื่นเต้นจนเกินเหตุไปนะครับ
- เมื่อกรรมการสอบสัมภาษณ์ต้องการให้แสดงความสามารถหรือความถนัด อย่าชักช้าอยู่จนเอาโอกาสนั้นมาแสดงให้เต็มที่

ตัวอย่างจดหมายสมัครงานภาษาไทย

การเขียนจดหมายสมัครงานภาษาไทยนั้นมันไม่ยากเลยครับ.....แต่จะเขียนอย่างไรให้โดนใจคนรับสมัครนั้นสิครับ...ยาก...แต่ไม่ต้องกลัวครับ...คนที่รับสมัครนั้นแต่ละคนความคิดไม่เหมือนกันหรอกครับ ดังนั้นสิ่งที่เราต้องเขียนคือแสดงความเป็นตัวตน ดึงข้อดีของเราออกมาเขียน เพื่อเป็นการดึงดูดความสนใจแก่คนรับสมัครครับ หลักมีแค่นี้ครับ...ข้างล่างนี้คือตัวอย่างจดหมายสมัครงานภาษาไทย หวังว่าคงมีประโยชน์นะครับ..........

------------------------------------------------------------------------------------------------------
ตัวอย่างจดหมายสมัครงานภาษาไทย


( ที่อยู่ของผู้สมัครงาน )


( วันที่ )

เรื่อง ขอสมัครงานตำแหน่ง ………………
เรียน ผู้จัดการฝ่ายบุคคล

สิ่งที่ส่งมาด้วย
1. ประวัติย่อ
2. ใบรับรองการศึกษา
3. รูปถ่าย

กระผมทราบจากโฆษณาในหนังสือพิมพ์…………… ฉบับที่…. วันที่.……….. ว่าทางบริษัทของท่านต้องการรับสมัครพนักงานในตำแหน่ง….…………… กระผมมีความสนใจมาก จึงใคร่ขอสมัครงานในตำแหน่งดังกล่าว โดยมีเหตุผลดังนี้
ประการแรก บริษัทของท่านเป็นหน่วยงานที่มีชื่อเสียง เป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไปทั้งในประเทศ (และต่างประเทศ) ด้าน…………….
ประการที่สอง กระผมมีความสนใจงานด้าน............... โดยเฉพาะอย่างยิ่งงาน............... ซึ่งเป็นงานที่กระผมได้มีโอกาสใช้ความรู้และความสามารถที่เรียนมาอีกด้วย นอกจากนี้ในระหว่างการศึกษาอยู่ กระผมได้ทำกิจกรรมนอกหลักสูตรหลาย ๆ อย่างที่เป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานด้าน............... ดังต่อไปนี้
1. ........................................
2. ........................................
3. ........................................
นอกจากความรู้และประสบการณ์ข้างต้นแล้ว กระผมยังสามารถใช้เครื่องและส่งข้อความเทเล็กซ์ได้ นอกจากนี้กระผมยังสามารถพิมพ์ดีดภาษาไทยและอังกฤษได้ และสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ดี
โดยเหตุนี้ กระผมจึงมีความมั่นใจเป็นอย่างมากว่า กระผมสามารถปฏิบัติงานในตำแหน่ง................... ได้ดี และหากท่านต้องการตรวจสอบความประพฤติหรือกิจกรรมของกระผมที่กล่าวมาข้างต้น โปรดติดต่อได้โดยตรง ยังผู้ที่มีรายชื่อในประวัติย่อของกระผมได้ พร้อมกันนี้ กระผมได้จัดส่งเอกสารต่างๆ มาเพื่อประกอบการพิจารณาของท่านแล้ว
กระผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความกรุณาจากท่าน ให้เข้าพบเพื่ออธิบายให้รายละเอียดต่างๆ เพิ่มเติม และขอขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งต่อความกรุณาของท่านมา ณ ที่นี้

ขอแสดงความนับถืออย่างสูง

(………………...............)

คำศัพท์ที่ใช้ในการสมัครงาน

ภาษาอังกฤษนั้นไม่ยากครับ....แต่...แ..่.งโคตรยากเลย...แต่ก่อนผมคิดแบบนี้ครับ...แต่นานๆเข้ามันก็ไม่ยากอย่างที่คิด เพียงแต่ต้องอาศัยการฝึกฝน การใช้อย่างเป็นประจำและต่อเนื่องครับ...แต่คำศัพท์ที่ผมจะแนะนำต่อไปนี้เป็นคำศัพท์ง่ายๆที่มีอยู่ในใบสมัครงานทั่วไปครับ.....เกือบลืมเวลาเรากรอกใบสมัครแนะนำในกรอกเป็นภาษาอังกฤษครับ สามารถช่วยให้ได้รับความสนใจเป็นพิเศษได้แน่นอนครับ....ยืนยันจากประสบการณ์จริง..

-------------------------------------------------------------------------------------------
คำศัพท์ที่ใช้กรอกในใบสมัครงาน

Application Form = แบบฟอร์มใบสมัครงาน
Application Letter = จดหมายสมัครงาน
Applicant / Candidate = ผู้สมัคร (งาน)
To be completed in own handwriting = เขียนใบสมัครด้วยลายมือตนเอง
Confidential = เป็นความลับ
Photo attached here = ติดรูปถ่ายตรงนี้
Position applied for / Position sought / Position desired = ตำแหน่งที่สมัคร / ตำแหน่งที่ต้องการ
Salary expected = เงินเดือนที่ต้องการ
Personal data = (อเมริกา) ประวัติส่วนตัว คำนี้ในประเทศอังกฤษใช้ (CV), bio-data หรือ data sheet และทั้งหมดนี้ก็มีความหมายอย่างเดียวกับคำว่า Rèsumè
Sex = เพศ (ชาย ใช้ Male หญิง ใช้ Female)
Present address = ที่อยู่ปัจจุบัน
Permanent address = ที่อยู่ถาวร
Date of birth = วันเดือนปีเกิด
Age = อายุ
Nationality = สัญชาติ
Race = เชื้อชาติ
Religion = ศาสนา (Buddhism = พุทธ, Christian = คริสต์, Islam = อิสลาม)
Height = ความสูง
Weight = น้ำหนัก
Identification Card (ID Card) = บัตรประจำตัวประชาชน
Issued by = ออกให้โดย
Marital status = สถานภาพการสมรส
Single = โสด
Married = แต่งงานแล้ว
Widowed = เป็นหม้าย
Divorce = หย่าร้าง
Person of notify in case of emergency = ผู้ที่จะติดต่อในกรณีเกิดอุบัติเหตุฉุกเฉิน
Certificate degree obtained = ประกาศนียบัตรหรือปริญญาที่ได้รับ
Military status = สถานภาพทางทหาร
Experience / Previous employment = ประวัติการทำงาน
Reasons for leaving = เหตุผลที่ออกจากงาน
References = บุคคลอ้างอิง บางแห่งใช้ Referees Applicant
Signature = ลายเซ็นผู้สมัคร
Reserved Officers’ Training Corps Course (ROTC) = หลักสูตร ร.ด.
Obligation = ไม่มีพันธะทางทหาร
Self-employed = ทำงานส่วนตัว
Equivalent qualification = คุณวุฒิเทียบเท่า
Income = รายได้
Letter of Recommendation = จดหมายรับรองการทำงาน บางครั้งใช้ Employment Certificate ใบรับรองการผ่านงาน หรือ Testimonial Marriage Certificate
Birth Certificate = สูติบัตร
Occupation / Profession = อาชีพ
Related Field = สาขาวิชาที่เกี่ยวข้อง
Rèsumè = ประวัติย่อ
Vocational Certificate = ปวช
Higher Vocational Certificate = ปวส
Home Registration Certificate = ทะเบียนบ้าน
Dependent = ผู้อยู่ในอุปการะ
Extra-curricular Activities = กิจกรรมนอกหลักสูตร
Special skills = ความชำนาญพิเศษ
Expert in = เชี่ยวชาญ
Employment record = ประวัติการทำงาน
Negotiable = ต่อรองได้
Guarantor = ผู้ค้ำประกัน
Fringe benefits = ผลประโยชน์ที่ลูกจ้างได้รับนอกจากค่าจ้างประจำ
Seminars and special training courses = การสัมมนาและการฝึกอบรมหลักสูตรพิเศษ
Spouse = คู่สมรส (สามีหรือภรรยาก็เรียกได้)
Domicile = ภูมิลำเนา
Transcript = ใบแสดงผลการเรียน บางครั้งใช้ Statement of Marks หรือ Mark Sheet
Degree Certificate = ใบปริญญาบัตร
Full-time job = งานทำเต็มเวลา (งานทำไม่เต็มเวลาใช้ Part-time job)
Date of attended = วันที่เข้าเรียน
Military Discharge Letter = ใบปลดทหารประจำการ หรืออาจเรียกว่า Certificate of exemption from military service

March 26, 2009

ตัวอย่างจดหมายสมัครงานภาษาอังกฤษ

ข้างล่างเป็นตัวอย่างจดหมายสมัครงานภาษาอังกฤษนะครับ....หลายคนคงจะเคยเขียนกันบ้างแล้ว และก็มีข้อสงสัยว่าเราจะเขียนถูกหลักหรือเปล่าว้า......หรือบางครั้งเราก็ว่าเราเขียนดีแล้วแต่ทำไมไม่เรียกเราไปสัมภาษณ์ซะทีล่ะ......หวังว่าสิ่งที่ผมนำมานั้นคงช่วยให้หลายๆคนมีความมั่นใจในการเขียนจดหมายสมัครงานกันมากขึ้นนะครับ.....

---ตัวอย่างจดหมายสมัครงานภาษาอังกฤษ--

99/9 Petkasem 10
Bangkok 10240
May 14,2009

Personnel Manager
Genius Times Co.,Ltd.
165 Rama 4 Rd.
Klongtuey, Bangkok 10100

Dear Sir / Madam,

Your advertisement in Bangkok Post of May 14, 2009 for the position of Assistant Brand Manager has attracted my attention because I think that my qualifications will fulfill your requirements.
I hold a Bachelor’s degree in Business Administration of ................. University. While studying at the University, I had a part-time job as a store clerk for Central Department store. My English and Thai typing speed are 40 words and 50 words an minute respectively.
Dr. Udom Rukthai, Professor of Business Administration in ...................... University, has permitted me to use his name as a reference. Enclosed you will find my detailed Resume, transcript, and two recent photographs.
I shall be able to call for an interview at your convenience and shall be glad to give you any further information that you may require. If you wish to telephone me, my number is 02-xxxxxxx.

Yours faithfully

(Mr / Miss ...............................)

--ขอขอบคุณ..ThaiJobCenter.. และ
Common Plus Technology Co.,Ltd. มากครับ

March 21, 2009

การเขียน Resume และตัวอย่าง Resume

ต่อมาเรามารู้ถึงหัวข้อของ Resume' ว่ามีอะไรบ้างนะครับ และเขียนอย่างไรให้ได้งาน....ทั้งหมดก็มีหัวข้อหลักๆ ทั้งหมด 6 หัวข้อด้วยกันคือ.....

1. ประวัติส่วนตัว ได้แก่ ชื่อ นามสกุล, ที่อยู่ปัจจุบัน, ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน, หมายเลขโทรศัพท์, วันเดือน ปีเกิด, สัญชาติ, ศาสนา, ส่วนสูง, น้ำหนัก **ห้ามลืมเบอร์โทรเด็ดขาดนะครับ อันนี้สำคัญมาก
2. การศึกษา ให้เขียนสถาบันล่าสุดที่ทุกคนจบมา, เกรดเฉลี่ย
3. ประวัติการทำงาน ให้ใส่บริษัทที่คนทำงานก่อนหน้านี้, ลักษณะของกิจการ, ตำแหน่งที่ทำปัจจุบัน, รายละเอียดของหน้าที่ที่ทำ
** สำหรับคนที่เพิ่งจบมาใหม่ๆนั้นให้เขียนรายละเอียดเกี่ยวกับ กิจกรรมต่างที่ทำระหว่างเรียน, การฝึกงานจากสถานที่นั้น และได้ฝึกอะไรไปบ้าง และสามารถนำสิ่งที่ได้รับมาใช้กับงานที่จะสมัครอย่างไรได้บ้าง (อันนี้จะต้องทราบรายละเอียดของบริษัทที่เราจะสมัครก่อนนะครับ ซึ่งผมว่าทุกคนควรจะทราบรายละเอียดของบริษัทที่เราจะสมัครนั้น ก่อนที่จะส่งใบสมัครไปนะครับ)
4. การอบรมต่างๆ ที่ผ่านมาระหว่างที่ทำงาน หรือระหว่างเรียนก็ได้ครับ
5. ความสามารถพิเศษด้านต่างๆ เช่น Computer, ภาษา
6. บุคคลอ้างอิง คนที่ทำงานแล้วก็น่าจะเป็นหัวหน้า, เพื่อนร่วมงานที่น่าเชื่อถือ, ส่วนคนที่เพิ่งจบมาใหม่ก็น่าจะเป็นอาจารย์ที่ปรึกษา แต่ว่าจะต้องไปขออนุญาติพวกท่านก่อนนะครับ....เดี๋ยวจะกลายเป็นว่าเวลามีคนโทรไปถามท่านเกี่ยวกับรายละเอียดของตัวเรา ท่านจะงงและพูดอะไรที่เป็นผลลบแก่ตัวเราไปนะครับ...

แถมให้นะครับ....ข้างล่างนี้ผมได้แนบ Resume' มาเพื่อให้ทุกคน Download ซึ่งเป็นตัวที่ผมเคยใช้สมัครงาน หวังว่าคงสามารถช่วยให้หลายคนประหยัดเวลาในการเขียนสักนิดก็ยังดีนะครับ....เกือบลืม Resume' ที่ดีไม่ควรเกิน 2 หน้ากระดาษ A4 นะครับ...

DOWNLOAD : Resume'

หลักการเขียน Resume'

Resume' คือ ประวัติโดยรวมของเรา แบบย่อๆ ไม่ต้องเน้นยาวมากเพื่อทำการแนะนำตัวเองให้กับผจก.บริษัทนั้นๆได้อ่านและประเมินเราก่อนจะเรียกสัมภาษณ์ ผมว่าทุกคนคงเข้าใจแล้วว่า Resume' คืออะไรแล้วนะครับ

อาวล่ะ ต่อไปผมจะบอกถึงหลักในการ Resume'เพื่อสมัครงาน:

1. สั้น
2. ง่ายๆ
3. ชัดเจน

ทั้ง 3 ข้อนี้จะต้องเข้าใจก่อนลงมือเขียน
1. สั้น คือ ไม่เขียนอะไรที่ไม่จำเป็น ไม่ซ้ำซาก ไม่เขียนวกวนไปมา
2. ง่ายๆ คือ ใช้คำศัพท์ที่ง่ายๆ ธรรมดา ใครก็อ่านเข้าใจได้ ไม่ใช้ประโยคยาวๆ ซํบซ้อน หรือคำศัพท์เทคนิค
3. ชัดเจน คือ เลือกใช้คำที่มีความหมายตรงกับที่ต้องการจะบอกแก่ผู้อ่าน ไม่มีข้อความขัดแย้งกัน

ทั้งสามข้อนี้เป็นหลักการในการเขียน Resume' ซึ่งมีความสำคัญมาก....

***แนะนำเทคนิค ของผมนะครับ.....
ผมจะสมมุติตัวเองว่าเป็นผจก.บริษัทที่เราต้องการสมัครแล้ว นำหลักการ ทั้งสามข้อมาใช้คิดว่า ผจก.คนนั้นต้องการทราบอะไรจากเราบ้าง โดยเขียน Resume' ให้สั้น และได้ใจความมากที่สุด...เพราะคนที่เป็นผจก.นั้นเวลามีน้อยมากดังนั้นเขาคงต้องการอ่านสิ่งที่ชัดเจน และตรงกับความต้องการของเขาที่สุด

สิ่งที่มุ่งหวังในการสร้าง Thai Job Interview

สวัสดีครับ....ผมชื่อตั้มครับ

เนื่องด้วยเศรษฐกิจตกสะเก็ด ซะขนาดหนัก.....ผมจึงมีความคิดว่า ผมน่าจะเขียนอะไรขึ้นมาเพื่อเป็นประโยชน์ แก่ผู้ที่กำลังจะจบ ผู้ที่กำลังหางาน ผู้ที่ตกงาน รวมทั้งผู้ที่กำลังทำงานอยู่...เพราะอดีตที่ผ่านมาผมเคยตกงานอยู่เป็นปี....ทำให้ผมได้ข้อคิดอะไรหลายๆอย่าง....ช่วงที่ผมว่างงาน และสิ่งที่ได้จากการทำงานนั้นมีมากยิ่งกว่า

สิ่งที่ผมจะเขียนนั้นเกิดขึ้นจากประสบการณ์ ที่ผมผ่านมา และบางสิ่งอาจจะนำสิ่งดีๆจากทางเวปเพื่อนบ้านมาใส่ด้วย เพื่อให้เิกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ที่ได้อ่าน.........

หวังว่าคุณๆผู้อ่านทั้งหลายคงจะได้นำสิ่งที่อ่าน ไปประยุกต์ใช้กับตัวเองเพื่อให้เกิดประโยชน์มากที่สุดนะครับ.....

Common Plus Technology Co.,Ltd